ดราม่าสนั่นเมื่อแรงงานถูกจับขังคุกเพราะฝ่าเคอร์ฟิว

ดราม่าสนั่นเมื่อแรงงานถูกจับขังคุกเพราะฝ่าเคอร์ฟิว ตำรวจอ้างเอกสารที่ให้มาไม่สมบูรณ์พร้อมดูถูกคนงานตัวเหม็น

        กรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อนางสาวพรชนกซึ่งเธอได้มีการโพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับคนงานของเธอที่ถูกจับคุมขังคุกในช่วงที่มีการควบคุมเคอร์ฟิวโดยเธอบอกว่าเธอเปิดบริษัทเป็นรับเหมาก่อสร้างและมีการส่งคนงานไปทำงานซึ่งเธอมีการติดต่อสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานราชการอื่นๆในจังหวัดแล้วว่าหากเธอจะต้องมีการให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลานั้น

เธอจะต้องติดต่อเอกสารอย่างไรบ้างเพื่อที่ลูกจ้างของเธอจะได้ไม่ถูกจับในช่วงเวลาเคอร์ฟิว แต่หลังจากที่เธอมีการสั่งให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาและลูกจ้างขับรถกลับที่พักในช่วงเวลากลางคืนนั้นปรากฏว่าเมื่อถึงด่านตำรวจตรงถนนศรีนครินทร์ที่จะเดินทางมาบางนาตำรวจจับเลียให้ลูกจ้างทั้งหมดลงจากรถแล้วไปวัดไข้หลังจากนั้นก็เข้าจับกุมในข้อหาฝ่าฝืนเคอร์ฟิวทั้งที่ลูกจ้างของเธอได้มีการส่งเอกสารให้ตรวจสอบแล้ว

ว่ามีการยื่นเรื่องขออนุญาตไว้เรียบร้อยแล้ว โดยลูกจ้างของเธอเล่าให้ฟังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ฟังอะไรเลยพร้อมทั้งเอกสารฉบับนั้นทิ้งหลังจากนั้นก็ส่งคนงานทั้งหมดเข้าห้องค่ะซึ่งกว่าพวกลูกจ้างจะติดต่อนายจ้างของตนเองได้นั้นก็กินเวลาไปหลายชั่วโมงและระหว่างที่รอนายจ้างเดินทางมาประกันตัวลูกจ้างทั้งหมดก็ยังชอบทำใจเพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพูดจาดูถูกพร้อมทั้งยังบอกว่าเขานั้นตัวเหม็นเป็นลูกจ้างหลายคนนั้น

เป็นผู้หญิงถึงกับร้องไห้ทันทีเพราะกลัวว่าจะต้องติดคุกและไม่ได้กลับบ้านโดยพวกเขาต้องรอนายจ้างนานถึง 3 ชั่วโมงด้วยกันกว่าที่จะพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้เรื่องและต้องนำเอกสารไปประกันตัวโดยทางนางสาวพลอยชนกบอกว่าเธอต้องนำหลักทรัพย์ไปค้ำประกันถึง 8 แสนกว่าบาทด้วยกันถึงทำให้นำตัวคนงานทั้งหมด 15 คนออกจากห้องขังได้ ซึ่งหลังจากที่มีการแชร์เรื่องราวนี้ออกมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการออกมาชี้แจง

เกี่ยวกับเรื่องของเอกสารการขอเดินทางในช่วงเวลาเคอร์ฟิวนั้นว่ากรณีที่มีการทำงานก่อสร้างแล้วทำล่วงเวลานั้นไม่ถือว่าเป็นการทำงานตามกะแต่มองว่าเป็นการทำโอทีมากกว่าดังนั้นจึงไม่สามารถที่จะทำงานล่วงเวลาได้ต้องกลับบ้านก่อนเวลาคือฟิวส์ส่วนเอกสารที่มีการถูกฉีกทิ้งนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เหตุผลว่าตำรวจคนที่ฉีกนึกว่าเป็นเอกสารไม่สำคัญไม่ได้ไปดูรายละเอียดในตัวเอกสารจึงได้ฉีกทิ้งไป

และไม่ได้มีการเอาผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีการฉีกเอกสารทิ้งเนื่องจากว่าเขาฉีกทิ้งตอนที่มีการนำแรงงานมาขังคุกเรียบร้อยแล้วไม่ได้ฉีกทิ้งตอนที่อยู่ตรง ด่านจับกุมตัวอีกทั้งยังบอกว่าในเรื่องของตัวเอกสารนั้นทางเจ้าของบริษัทจะต้องไปติดต่อกับหน่วยงานราชการไม่ว่าจะเป็นกำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน   นายอำเภอ   สำนักงานเขตและเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งทุกคนที่ทำงานราชการในเขตพื้นที่จะต้องมีการเซ็นอนุมัติทั้งหมดหากขาดอย่างใดอย่างหนึ่งก็ถือว่าเอกสารไม่สมบูรณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าจับกุมได้  

 

สนับสนุนโดย  ทางเข้า nowbet